คยองบกกุง (Gyeongbokgung, 경복궁) ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1395 เพื่อเป็นพระราชวังหลักแห่งแรก ของราชวงศ์โชซอน (ค.ศ. 1392 – ค.ศ. 1910) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูเขาบุกฮันซาน (Bukhansan Mountain) ในกรุงโซล (Seoul) ซึ่งเป็นเมืองในพื้นที่ ของจังหวัดคยองกี (คยองกีโด, Gyeonggi-do) ในประเทศเกาหลีใต้ พระราชวังถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1395 ซึ่งเป็นปีที่ 4 ในรัชสมัยของ กษัตริย์แทโจ (Taejo of Joseon, 태조; ค.ศ. 1335 – ค.ศ. 1408) ผู้ก่อตั้งและปฐมบรมกษัตริย์แห่ง ราชวงศ์โชซอน (Joseon Dynasty)
ภายหลังการย้ายเมืองหลวง จากเมืองแคซอง (Gaeseong, 개성) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์โครยอ (Goryeo Dynasty) มายังเมืองฮันยาง หรือเมืองฮันซอง (Hanseong, 한성) พระราชวังมีรูปแบบทางสถาปัตยกรรม และการจัดวางผังพระราชวัง เป็นไปตามประเพณี และหลักของฮวงจุ้ย ซึ่งในภาษาเกาหลี เรียกว่า พุงซู (Pungsu, 풍수) โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อม และระบบนิเวศน์โดยรอบ ของพระราชวังเป็นหลัก สำหรับชื่อพระราชวังนั้น สื่อความหมายว่า ราชวงศ์ใหม่จะเจริญรุ่งเรืองด้วยพรอันยิ่งใหญ่
ภายในพระราชวังประกอบไปด้วย อาคารกว่า 500 หลัง ที่ถูกสร้างอย่างประณีตและงดงาม เพื่อเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกทางการเมือง สำหรับพระมหากษัตริย์และขุนนาง รวมถึงเป็นที่พำนักอาศัย และพื้นที่สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ สำหรับพระราชวงศ์ นอกจากนี้ยังมีพระราชวังเล็กๆ อีกหลายแห่ง ในปี ค.ศ. 1592 พระราชวังถูกเผา และได้รับความเสียหายอย่างหนัก ในช่วงการรุกรานเกาหลีของญี่ปุ่น (Japanese invasions of Korea, ค.ศ. 1592 – ค.ศ. 1598) การสู้รบครั้งนี้ประเทศเกาหลีเรียกว่า สงครามอิมจิน (Imjin War, 임진왜란)
พระราชวังถูกบูรณะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1867 ในรัชสมัยของกษัตริย์โคจง (Gojong of Korea, 고종; ค.ศ. 1852 – ค.ศ. 1919) ในช่วงยุคอาณานิคมของญี่ปุ่น อาคารส่วนใหญ่เสียหายเกือบทั้งหมด ทั้งจากการสู้รบ และจากการวางผังเมืองใหม่ และการสร้างรถราง ซึ่งเหลือเพียงไม่กี่อาคาร โดยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 ภายใต้การดำเนินโครงการฟื้นฟูอย่างเต็มรูปแบบ ได้ทำการบูรณะฟื้นฟูอาคารที่สำคัญต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันถือเป็นพระราชวังที่สวยงาม และยิ่งใหญ่ที่สุด ของพระราชวังหลวงทั้งห้าแห่งของกรุงโซล (Five Grand Palaces of Seoul)
โดยมีสถานที่สำคัญ และเป็นสถานที่ยอดนิยม ที่มีชื่อเสียงในพระราชวังแห่งนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้ ประตูหลัก 4 ประตู และประตูเข้าสู่บริเวณพระราชวัง 2 แห่ง ประตูหลักตั้งอยู่ประจำทิศทั้ง 4 ได้แก่ ควางฮวามุน (Gwanghwamun, 광화문) เป็นประตูหลักของพระราชวัง หรือประตูทิศใต้, ชินมูมุน (Sinmumun, 신무문) เป็นประตูทิศเหนือ, คอนชุนมุน (Geonchunmun, 건춘문) เป็นประตูทิศตะวันออก และยองชูมุน (Yeongchumun, 영추문) เป็นประตูทิศตะวันตก รวมถึงประตูเข้าสู่บริเวณพระราชวัง 2 แห่ง ได้แก่ ฮึงรเยมุน (Heungryemun, 흥례문) เป็นประตูที่สอง และ คึนจองมุน (Geunjeongmun, 근정문) เป็นประตูที่สาม
เขตพระราชฐานชั้นนอก เป็นที่สำหรับการบริหารบ้านเมือง และการทรงงานของกษัตริย์ ซึ่งประกอบไปด้วย คึนจองมุน (Geunjeongmun, 근정문) เป็นประตูที่สาม เพื่อเข้าเขตพระราชฐานชั้นนอก และพระที่นั่งต่างๆ สำหรับเขตพระราชฐานชั้นใน เป็นบริเวณสำหรับพำนักอาศัย และสถานที่ประทับของ กษัตริย์และราชวงศ์ ซึ่งประกอบไปด้วยพระตำหนัก, พระราชวังเล็ก, ศาลาพักผ่อน, สะพาน
ประตูควางฮวา
ควางฮวามุน (Gwanghwamun, 광화문) เป็นประตูหลักทางทิศใต้ของพระราชวัง ที่บริเวณลานด้านหน้าของประตูแห่งนี้ มักมีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศมาเยือน เพื่อชมความสวยงามของ พิธีเปลี่ยนเวรยามพระราชวังเคียงบก (Gyeongbok Palace Royal Guard – Changing Ceremony) ซึ่งจัดแสดงในทุกๆ วัน ยกเว้นวันจันทร์ โดยมีการจัดแสดงเพียงวันละ 3 รอบเท่านั้น อ่านเพิ่มเติม
เมื่อคุณเข้าสู่บริเวณของพระราชวัง คุณจะพบกับประตูฮึงรเยมุน (Heungryemun, 흥례문) เป็นประตูที่สองซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่าง ประตูควางฮวามGwanghwamun Gate) ซึ่งเป็นประตูหลักของพระราชวัง และประตูคึนจองมุน (Geunjeongmun Gate, 근정문) ซึ่งเป็นประตูในเขตพระราชฐานชั้นนอก และเป็นประตูหลักของพระที่นั่งคึนจอง (Geunjeongjeon, 근정전)
พระที่นั่งคึนจอง
คึนจองจอน (Geunjeongjeon, 근정전) ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ด้านหลังของประตูทางที่เรียกว่า ประตูคึนจองมุน (Geunjeongmun Gate, 근정문) เป็นห้องโถงหลักของพระราชวัง สำหรับการดำเนินการของรัฐ, การประชุมอย่างเป็นทางการ และการต้อนรับทูตต่างประเทศ รวมถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ของกษัตริย์หลายพระองค์ อ่านเพิ่มเติม
พระที่นั่งซูจอง (Sujeongjeon Hall)
ซูจองจอน (Sujeongjeon, 수정전) เป็นอาคารที่ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก และอยู่ทางทิศใต้ของศาลากยองฮเวรู (Gyeonghoeru Pavilion) ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1867 เพื่อเป็นสำนักงานของคณะขุนนาง ในสมัยราชวงศ์โชซอน
พระที่นั่งซาจอง
ซาจองจอน (Sajeongjeon Hall, 사정전) มีความหมายว่า “การคัดเลือกความคิด” เพื่อสื่อสัญลักษณ์ในการกระตุ้น ให้กษัตริย์ทรงคิด เกี่ยวกับการบริหารบ้านเมือง พระที่นั่งตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ด้านหลังของพระที่นั่งคึนจอง (Geunjeongjeon Hall, 근정전) เป็นสถานที่ใช้สำหรับการทรงงาน และจัดการประชุมกับขุนนางระดับสูง ของกษัตริย์ในสมัยราชวงศ์โชซอน พระที่นั่งแห่งนี้ยังตั้งอยู่ตรงกลาง ระหว่างพระที่นั่งสองแห่ง ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับ การทรงงานของกษัตริย์เช่นกัน คือ พระที่นั่งชอนชู (Cheonchujeon, 천추전) ซึ่งถูกใช้งานในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว และพระที่นั่งมันชุน (Manchunjeon, 만춘전) ซึ่งถูกใช้งานในฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากมีการติดตั้งระบบทำความร้อนใต้พื้น ที่เรียกว่า อนโดล (Ondol, 온돌) อ่านเพิ่มเติม
พระตำหนักคังนยอง
คังนยองจอน (Gangnyeongjeon, 강녕전) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นใน ห้องซึ่งอยู่ตรงกลางเป็นที่ประทับของกษัตริย์ และล้อมรอบไปด้วยห้องเล็กๆ ของนางใน ซึ่งมีหน้าที่เพื่อปกป้องดูแลกษัตริย์ อีกหนึ่งคุณสมบัติโดดเด่น ที่ไม่เหมือนกับอาคารอื่นๆ ภายในพระราชวัง คือที่สันหลังคาจะไม่ถูกประดับด้วย สัญลักษณ์ที่เรียกว่า ยอดมังกร หรือเรียกในภาษาเกาหลี ว่า ยงมารู (Yongmaru, 용마루) อ่านเพิ่มเติม
ศาลาคยองฮเวรู
คยองฮเวรูกวาน (Gyeonghoeru Pavilion, 경회루관) เป็นห้องจัดเลี้ยงหลวง (Royal Banquet Hall) และเป็นศาลาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ ศาลากลางน้ำซึ่งเคยถูกใช้ เป็นห้องโถงสำหรับจัดงานเลี้ยง เพื่อเฉลิมฉลองในวาระสำคัญๆ รวมถึงงานเลี้ยงต้อนรับนักการทูตต่างประเทศ ในสมัยราชวงศ์โชซอน (Joseon Dynasty) อ่านเพิ่มเติม
พระตำหนักคโยแท
คโยแทจอน (Gyotaejeon, 교태전) เป็นอาคารที่ใช้เป็นที่ประทับ ของสมเด็จพระราชินี ในช่วงราชวงศ์โชซอน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นใน บริเวณด้านหลังของพระตำหนักแห่งนี้ เป็นที่อยู่ของปล่องไฟอามีซาน (Emisan Chimney, 아미산 굴뚝) ที่ความโดดเด่น ของศิลปะการก่อสร้างในสมัยราชวงศ์โชซอน และได้รับการจดทะเบียนเป็น สมบัติของเกาหลี หมายเลข 811 ในวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1985 อ่านเพิ่มเติม
พระตำหนักชาคยอง
ชาคยองจอน (Jagyeongjeon, 자경전) เป็นพระตำหนักแห่งเดียวที่คงสภาพสมบูรณ์ และรอดพ้นจากโครงการรื้อถอนของรัฐบาล ภายใต้อาณานิคมของญี่ปุ่น พระตำหนักถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1865 เพื่อเป็นที่ประทับของพระพันปีหลวง พระราชินีชินจอง (Queen Sinjeong, 신정왕후; ค.ศ. 1809 – ค.ศ. 1890) ซึ่งอาคารและผนังตกแต่ง ของพระตำหนักแห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น สมบัติของเกาหลี หมายเลข 809 เมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1985 อ่านเพิ่มเติม
พระราชวังตะวันออก
ทงกุง (Donggung, 동궁) ซึ่งในอดีตประกอบไปด้วยอาคารหลัก 4 แห่ง ซึ่งเป็นพระตำแหนักที่ประทับ ของมกุฎราชกุมารและพระชายา, รวมถึงเป็นสถานที่ศึกษาเล่าเรียน และเป็นสถานที่สำหรับการเตรียมการ เพื่อเป็นพระมหากษัตริย์ในอนาคต ของมกุฎราชกุมาร โดยในปัจจุบัน คงเหลืออาคารเพียงสองแห่ง คือ พระตำหนักชาซอน (Jaseondang Hall) และพระตำหนักพีฮยอน (Bihyeongak Hall) อ่านเพิ่มเติม
ศาลาฮยังวน
ฮยังวนจอง (Hyangwonjeong Pavilion, 향원정) เป็นศาลากลางน้ำสองชั้นทรงหกเหลี่ยม บนเกาะกลางทะเลสาบ ฮยังวนจี (Hyangwonji Lake) และถูกเชื่อมสู่บริเวณของพระราชวัง ด้วยสะพานชวียังกโย (Chwihyanggyo Bridge) ซึ่งเคยเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุด ของราชวงศ์โชซอน อ่านเพิ่มเติม
ที่ประทับหลวงคยอนชอง
คยอนชองกุง (Geoncheonggung, 건청궁) เป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของกษัตริย์โคจง (Gojong of Korea, 고종) และเป็นสถานที่ซึ่งเกิด เหตุการณ์ ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 1895 ชาวญี่ปุ่น ลอบปลงพระชนม์พระมเหสีมิน ซึ่งเป็นพระยศในขณะนั้นของ จักรพรรดินีมยองซอง (Empress Myeongseong, 명성황후; ค.ศ. 1851 – ค.ศ. 1895) อ่านเพิ่มเติม
นอกจากนี้ในบริเวณของพระราชวังแห่งนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญอีก 2 แห่ง รวมถึงพระราชวังยังตั้งอยู่ ในบริเวณของ จัตุรัสควางฮวามุน (Gwanghwamun Square) จึงทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว และสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง
พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติเกาหลี
National Palace Museum of Korea (국립고궁박물관) พิพิธภัณฑ์จัดแสดง ทรัพย์สินของพระราชวัง ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของราชวงศ์ ภายในพิพิธภัณฑ์เป็นสถานที่จัดแสดง และอนุรักษ์ไว้ซึ่ง ทรัพย์สินของพระราชวัง ซึ่งประกอบไปด้วย โบราณวัตถุและสมบัติกว่า 40,000 ชิ้น จากพระราชวังหลวง ทั้งห้าแห่งของกรุงโซล (Seoul) (Five Grand Palaces of Seoul) อ่านเพิ่มเติม
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติเกาหลี
National Folk Museum of Korea (국립민속박물관) ภายในพิพิธภัณฑ์ประกอบไปด้วย ห้องโถงนิทรรศการหลักสามแห่ง โดยจัดแสดงเกี่ยวกับ ชีวิตประจำวันแบบดั้งเดิมของเกาหลี, วิถีแห่งเกาหลี และวงจรชีวิตของชาวเกาหลี นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ในการเก็บรวบรวม และอนุรักษ์ไว้ซึ่งทรัพย์สิน ทางวัฒนธรรมระดับชาติ รวมถึงนิทรรศการกลางแจ้ง ที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์, ประเพณี และมรดกทางวัฒนธรรมต่างๆ อ่านเพิ่มเติม
จตุรัสควางฮวามุน
ควางฮวามุนกวางจัง (Gwanghwamun Square, 광화문광장) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า “ควางฮวามุนพลาซ่า (Gwanghwamun Plaza)” จตุรัสแห่งนี้เป็นพื้นที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซึ่งเชื่อมต่อระหว่างประตูควางฮวามุน (Gwanghwamun Gate) และชองกเยพลาซ่า (Cheonggye Square) และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกหลายแห่ง อ่านเพิ่มเติม
ที่อยู่ 161 Sajik-ro, Sejongno, Jongno-gu, Seoul, South Korea (서울특별시 종로구 세종로 사직로 161)
ข้อมูลเพิ่มเติม
สายด่วนการท่องเที่ยว 1330: + 82-2-1330 (เกาหลี, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, จีน, รัสเซีย, เวียดนาม, ไทย, มาเลย์)
ติดต่อสอบถาม +82-2-3700-3900 (เกาหลี )
website: Gyeongbokgung Palace (อังกฤษ, เกาหลี )
เวลาทำการ
- มีนาคม – ตุลาคม 09:00 – 18:00 น.
- พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ 09:00 – 17:00 น.
*เข้าชมรอบสุดท้ายก่อนเวลาปิดทำการ 1 ชั่วโมง
*ปิดทำการทุกวันอังคาร
ค่าเข้าชม
- ผู้ใหญ่ 3,000 วอน และเด็ก 1,500 วอน
- กลุ่ม: ผู้ใหญ่ 2,400 วอน และเด็ก 1,200 วอน
*ผู้ใหญ่ (อายุ 19 ขึ้นไป), เด็ก (อายุ 7-18 ปี) *เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีเข้าชมฟรี
*กลุ่ม: ผู้ใหญ่ต้องไม่ต่ำกว่า 20 คน และเด็กต้องไม่ต่ำกว่า 10 คน
บัตรชมพระราชวัง (Combination Ticket for Palaces)
10,000 วอน สำหรับเยี่ยมชมพระราชวังหลวง ทั้งห้าแห่งกรุงโซล (Seoul) (Five Grand Palaces of Seoul) *ราคาบัตรสำหรับ 4 พระราชวัง และฟรีค่าธรรมเนียมสำหรับ 1 พระราชวัง อ่านเพิ่มเติม
การเดินทาง
- Anguk Station (안국역, อันกุกหยอก, Seoul Subway Line 3) และออกทางออกที่ 1
- Gyeongbokgung Station (경복궁역, คยองบกกุงหยอก, Seoul Subway Line 3) และออกทางออกที่ 5
- Gwanghwamun Station (광화문역, ควางฮวามุนหยอก, Seoul Subway Line 5) และออกทางออกที่ 1 เดินต่ออีกประมาณ 400 เมตร
by Google Map