พุลกุกซา (Bulguksa, 불국사) วัดถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 528 ซึ่งเป็นปีที่พุทธศาสนา ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ โดยราชวงศ์ชิลลา (Silla) ปัจจุบันวัดแห่งนี้อยู่ใน เมืองคยองจู (Gyeongju) ของจังหวัดคยองซังเหนือ (คยองซังบุกโด, Gyeongsangbuk-do), ประเทศเกาหลีใต้

วัดถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยของ กษัตริย์พ็อบฮึง (Beopheung) ตามพระราชประสงค์ของ พระมารดายองเจ (Yeongje) และพระราชินีคียุน (Queen Gi Yun) โดยการสร้างเป็นวิหารขึ้นมา สำหรับชื่อวัดนั้นเรียกว่า พ็อบรยูซา (Beopryusa Temple)

ต่อมาเรียกว่า วัดพุลกุกซา (Bulguksa Temple)  ซึ่งหมายถึง “วัดแห่งพระพุทธเจ้า”  โดยวัดแห่งนี้นั้นถือเป็นผลงานชิ้นเอก ของยุคทองของศิลปะ ทางพุทธศาสนา ในอาณาจักรชิลลา ต่อมาในปี ค.ศ. 574 วัดถูกสร้างขึ้นมาใหม่ โดยท่านผู้หญิงชีโซ (Lady Jiso) พระมารดาของกษัตริย์ชินฮึง (Jinheung)

และได้มีการบันทึกถึง การสร้างรูปปั้นของ พระไวโรจนพุทธะ (Vairocana Buddha *ประธานของพระพุทธะ ทั้ง 5 หมายถึงปัญญาอันสูงสุด) และพระอมิตาภพุทธะ (Amida Buddha *เป็นพระธยานิพุทธะ ที่ประทับในแดนสุขาวดี)

วัดแห่งนี้ได้รับการปรับปรุงใหม่ หลายต่อหลายครั้ง ทั้งในสมัยของอาณาจักรชิลลา, สมัยราชวงศ์โครยอ และสมัยราชวงศ์โชซอน มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในช่วงสงครามอิมจิน ซึ่งทำให้อาคารไม้ของวัดถูกเผาทำลาย หลังจากนั้นในระหว่างปี ค.ศ. 1604 – ค.ศ. 1805 ได้มีการบูรณะ และขยายขอบเขตของวัด

รวมไปถึงการบูรณะอีกครั้ง ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง และสงครามเกาหลี ซึ่งได้ดำเนินการศึกษาทางโบราณคดี เพื่อเรียกคืนรูปแบบดั้งเดิมของวัด ในปี ค.ศ. 1963 และดำเนินการฟื้นฟูในระหว่างปี ค.ศ. 1969 – ค.ศ. 1973 ตามคำสั่งของประธานาธิบดีปาร์คจุงฮี

วัดแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียน และกำหนดให้เป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1995 ด้วยความงดงามทางศิลปะ และคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 1,400 ปี

นอกจากนี้วัดแห่งนี้ ยังถือเป็นวิทยาลัยพุทธศาสนา ที่สำคัญในประเทศเกาหลีใต้ จึงทำให้วัดแห่งนี้ มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ โดยภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของ สถานที่และส่วนต่างๆ ที่สำคัญหลายแห่ง ได้แก่

ซก-กเยมุน

ซกกเยมุน (Soggyemun, 속계문)

Soggyemun (속계문) เป็นบริเวณของทางเข้าวิหาร ที่มีบันไดสองระดับชั้น (National Treasure No. 23) ซึ่งนำไปสู่ด้านในของวิหาร โดยมีจำนวนขั้นของบันได ทั้งหมด 33 ขั้น อันหมายถึง 33 ขั้นตอน ในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า โดยระดับชั้นล่างของบันไดแห่งนี้ ถูกเรียกว่า ชอนกุน-กโย (Cheongungyo Bridge, 천군교) มีจำนวน 17 ขั้น และส่วนชั้นบนถูกเรียกว่า แพกุน-กโย (Baegungyo, 배군교) ซึ่งมี 16 ขั้นบันได

เจดีย์ซอกกา

ซอกกาทับ (Seokgatap, 석가탑)

นอกจากนี้ภายในวัดยังมีเจดีย์ 2 แห่ง ได้แก่ ซอกกาทับ (Seokgatap, 석가탑) หรือเจดีย์ศากยมุนี (Sakyamuni Pagoda) เป็นเจดีย์สามชั้น  ซึ่งมีขนาดความสูง 8.2 เมตร เจดีย์หินแบบดั้งเดิมของเกาหลี ที่มีเส้นเรียบง่าย และมีรายละเอียดน้อยที่สุด ซึ่งมีอายุมากกว่า 1300 ปี และเป็นสมบัติแห่งชาติ หมายเลข 20 (Korean National Treasures no. 20)

เจดีย์ทาโบ

ทาโบทับ (Dabotap, 다보탑)

ทาโบทับ (Dabotap, 다보탑) เป็นเจดีย์ซึ่งมีความสูง 10.4 เมตร ที่มีรูปแบบที่วิจิตรและหรูหรา นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ภาพ ที่ใช้ในเหรียญเงินราคา 10 วอนของเกาหลีใต้ และยังเป็นสมบัติแห่งชาติ หมายเลข 21 (Korean National Treasures no. 21)

วิหารแทอุง

แทอุงจอน (Daeungjeon, 대웅전)

บริเวณด้านหลังของเจดีย์ทั้งสองแห่งนั้น เป็นที่ตั้งของแทอุงจอน (Daeungjeon, 대웅전) ซึ่งหมายถึง ห้องโถงแห่งการตรัสรู้ และเป็นห้องโถงใหญ่ อันเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธรูปศากยมุนี (Sakuamuni Buddha) ที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 681

ศาลามูซอล

มูซอลจอน (Museoljeon, 무설전)

ด้านหลังของห้องโถงเป็นที่ตั้งของ มูซอลจอน (Museoljeon, 무설전) ห้องโถงนี้ได้รับชื่อ จากความเชื่อที่ว่า คำสอนของพระพุทธเจ้านั้น ไม่สามารถสอนด้วยคำพูดเพียงอย่างเดียว ถือเป็นหนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของวัด ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 670

ศาลควันอึม

ควันอึมจอน (Gwaneumjeon, 관음전) หรือ ศาลพระโพธิสัตว์ (Avalokitesvara’s Shrine) เป็นศาลเจ้าซึ่งอยู่ในจุด ที่สูงที่สุดของวัด อันเป็นที่ประดิษฐานของ องค์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ซึ่งเป็นโพธิสัตว์แห่งความเมตตา และความสมบูรณ์

ศาลาพีโร

โดยบริเวณด้านล่างของควานอึมจอน (Gwaneumjeon, 관음전) เป็นส่วนของพีโรจอน (Birojeon, 비로전) เป็นหออันเป็นที่ประดิษฐานของพระไวโรจนพุทธะ หรือพระพุทธเจ้าแห่งการตรัสรู้ (Vairocana Buddha) พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ที่มีความสูง 1.77 เมตร ที่วิจิตรงดงาม จากงานช่างฝีมือขึ้นสูง และถือเป็น Korean National Treasure No.26 อีกด้วย

ศาลาคึกนัก

ถัดจากพีโรจอน (Birojeon, 비로전) เป็นบริเวณที่เรียกว่า คึกนักจอน (Geuknakjeon,극락전) ซึ่งเป็นหอแห่งความสุขสูงสุด (Hall of Supreme Bliss) อันเป็นที่ประดิษฐานของ พระอมิตาภพุทธะ ซึ่งเป็นพระธยานิพุทธะ ที่ประทับในแดนสุขาวดี (Amida Buddha) องค์พระเป็นรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ที่มีความสูง 1.66 เมตร ซึ่งมีรูปแบบที่งดงาม และสื่อความหมายทางนามธรรม มากกว่าความสมจริง ซึ่งให้ความรู้สึกถึงความสุข, ความสามัคคีและความมั่นคง และยังเป็น Korean National Treasure No.27 อีกด้วย

ที่อยู่ 15-1 Jinhyeon-dong, Gyeongju, Gyeongsangbuk-do, South Korea (경상북도 경주시 진현동 15-1)

ข้อมูลเพิ่มเติม

สายด่วนการท่องเที่ยว 1330: + 82-2-1330 (เกาหลี, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, จีน, รัสเซีย, เวียดนาม, ไทย, มาเลย์)

ติดต่อสอบถาม +82 54-746-9913

website: bulguksa.or.kr

เวลาทำการ

มี.ค. – ก.ย. 07:00-18:00 / ต.ค. 07:00-17:30

พ.ย. – ม.ค. 07:30-17:00 / ก.พ. 07:30-17:30

ค่าเข้าชม

ผู้ใหญ่ (อายุมากกว่า 19 ปี): 5,000 วอน, กลุ่ม: 3,000 วอน

วัยรุ่น (อายุ 13-18 ปี): 3,500 วอน, กลุ่ม: 2,000 วอน

เด็ก (อายุ 7-12 ปี): 2,500 วอน, กลุ่ม: 1,500 วอน

กลุ่ม (มากกว่า 10 คน) และเด็ก (อายุต่ำกว่า 7 ปี) ฟรี

การเดินทาง

รายละเอียดการเดินทางโดยรถบัส Seoul to Gyeongju

รายละเอียดการเดินทางโดยรถไฟ Seoul to Gyeongju

From Gyeongju Station

เดินไปตามถนน Hwarang-ro (화랑로) และขึ้นรถบัสหมายเลข 10 หรือ 11 (ตั้งอยู่ด้านหน้าของที่ทำการไปรษณีย์) และลงที่ป้ายจอด พุลกุกซา (Bulguksa Temple, 불국사) *ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ชม

From Intercity · Express Bus Terminal

โดยสารรถบัสหมายเลข 10 หรือ 11 จากป้ายรถประจำทางฝั่งตรงข้ามจากสถานีขนส่ง และลงที่ป้ายจอด พุลกุกซา (Bulguksa Temple, 불국사) *ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 1 ชม

by Google Map

Bulguksa Temple (불국사)