พื้นที่หมายเลขสี่ซึ่งกำหนดให้เป็น หนึ่งในพื้นที่ประวัติศาสตร์เมืองคยองจู (Gyeongju Historic Areas)ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage) เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2000 พื้นที่ซึ่งประกอบไปด้วย ซากปรักหักพังของวัดสองแห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้กัน ได้แก่ วัดฮวังนยองซาจี (Hwangnyongsaji, Hwangnyongsa Temple Site, 황룡사지) ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าของวัดแห่งที่ 2 คือ

วัดพุนฮวังซา (Bunhwangsa Temple, 분황사) อยู่ในเมืองคยองจู (Gyeongju) ของจังหวัดคยองซังเหนือ (คยองซังบุกโด, Gyeongsangbuk-do), ประเทศเกาหลีใต้

วัดฮวังนยองซาจี

Hwangnyongsaji (황룡사지) หรือ Hwangnyongsa Temple Site เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และเป็นที่ตั้งของสมบัติทางพุทธศาสนาที่สำคัญของประเทศ วัดถูกสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 553 จากการขุดค้นทางโบราณคดี ทำให้ค้นพบโบราณวัตถุกว่า 40,000 ชิ้น จึงทำให้วัดแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น โบราณสถานแห่งชาติหมายเลข 6 เมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1963 จากการศึกษาเป็นระยะเวลากว่าแปดปี ได้เปิดเผยรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของบริเวณวัด ซึ่งประกอบด้วยเจดีย์หนึ่งองค์ และสามห้องโถง ถึงแม้ว่าหินฐานรากและสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ในบริเวณส่วนล่างของวิหาร จะสามารถระบุโครงสร้างได้ผ่านการขุดค้น แต่ไม่มีร่องรอยทางประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับรูปแบบทางสถาปัตยกรรม ของบริเวณส่วนบนของวัด จึงทำให้ไม่สามารถทำการบูรณะ รูปแบบเดิมของพระวิหารได้

จากการค้นพบทางโบราณคดี ได้มีการคำนวณขนาดพื้นที่ของวัด ว่ามีขนาดประมาณ 70 เอเคอร์ หรือประมาณ 8 เท่าของวัดพูลกูกซา (Bulguksa Temple) ซึ่งเป็นวัดอีกแห่ง ที่เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ขององค์การยูเนสโก ด้วยความงดงามทางศิลปะ และคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ซึ่งยาวนานกว่า 1,400 ปี อ่านเพิ่มเติม

วัดพุนฮวังซา

Bunhwangsa Temple (분황사) ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 634 ซึ่งเป็นปีที่สามในรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีซอนด็อกแห่งอาณาจักรชิลลา (Queen Seondeok of Silla, 선덕여왕; ค.ศ. 632 – ค.ศ. 647) จึงถือได้ว่าเป็นวัดซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งในสมัยรุ่งเรือง วัดแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่หลายเอเคอร์ และเป็นหนึ่งในสี่วัดหลักของอาณาจักรชิลลา อันเป็นพุทธสถานที่ใช้ในการอธิษฐาน เพื่อขอพรให้กับอาณาจักร และเคยมีโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์มากมาย แต่ส่วนใหญ่หายไปและถูกทำลาย เนื่องจากการรุกรานของมองโกเลีย และการบุกรุกของญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 1592 ในปัจจุบันยังคงเหลือซากปรักหักพังของโบราณสถานที่สำคัญ คือ

หอคอยหินโมจอน (Mojeon Stone Tower) หรือ เจดีย์พุนฮวังซาซอกถัพ (Bunhwangsa Seoktap) หรือเรียกว่า เจดีย์หินแห่งวัดพุนฮวังซา (Stone Pagoda of Bunhwangsa) เป็นเจดีย์หินที่เก่าแก่ที่สุดจากอาณาจักรชิลลา (Silla Dynasty) และถูกกำหนดเป็นสมบัติประจำชาติของเกาหลี ลำดับที่ 30 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1962 เจดีย์นี้ถูกสร้างขึ้นโดยมีรูปแบบทางสถาปัตยกรรม จากราชวงศ์ถังในประเทศจีน

ตามบันทึกโบราณระบุว่า แต่เดิมนั้นเจดีย์หินสีดำมีขนาดความสูงเก้าชั้น และหลังคาของแต่ละชั้นนั้น ถูกสร้างโดยการวางอิฐ ในลักษณะคล้ายขั้นบันได และเจดีย์ค่อยๆ มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ จนเหลือเพียงสามชั้นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ที่บริเวณประตูเข้าของเจดีย์นั้น เป็นที่ตั้งของรูปปั้นหินผู้พิทักษ์พุทธศาสนาจำนวนสองร่าง คอยปกป้องแต่ละประตู และเป็นที่รู้จักกันในชื่อของคึมกังยอกซา (Geumgang-yeoksa, 금강역사) หรืออินวังยอกซา (In-wang-yeoksa, 인왕역사) สำหรับเจดีย์อีกแห่ง ซึ่งมีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมเหมือนกับเจดีย์แห่งนี้ คือ

มีรึกซาชีซอกทับ (Mireuksaji Seoktap, 미륵사지석탑) หรือ เจดีย์หินมีรึกซาจี ซึ่งเป็นสมบัติแห่งชาติหมายเลข 11 (National Treasure No. 11) และเป็นหนึ่งในสอง ของเจดีย์ในสมัยแพ็กเจ (Baekje Dynasty) ที่ยังหลงเหลืออยู่ที่วัดมีรึกซา (Mireuksa Temple, Iksan) อ่านเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ยังมีการขุดพบรูปปั้นหิน ของพระพุทธรูปจำนวนมาก ในบริเวณเหนือกำแพงด้านหลัง ของวัดพุนฮวังซา (Bunhwangsa Temple) ซุึ่งถูกจัดแสดงไว้ในลานของ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติคยองจู (Gyeongju National Museum) อ่านเพิ่มเติม

ด้วยความสำคัญของพื้นที่แห่งนี้  จึงถูกกำหนดให้เป็น หนึ่งในพื้นที่ประวัติศาสตร์เมืองคยองจู (Gyeongju Historic Areas) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage) อ่านเพิ่มเติม

* รูปปั้นหิน ของพระพุทธรูปจำนวนมาก ในบริเวณเหนือกำแพงด้านหลัง ของวัดพุนฮวังซา (Bunhwangsa Temple) ซุึ่งถูกจัดแสดงไว้ในลานของ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติคยองจู (Gyeongju National Museum)

ที่อยู่ Hwangnyongsa Temple Site (황룡사지)

320-2 Guhwang-dong, Gyeongju, Gyeongsangbuk-do, South Korea (경상북도 경주시 구황동 320-2)

ที่อยู่ Bunhwangsa Temple (분황사)

94-11 Bunhwang-ro, Wolseong-dong, Gyeongju, Gyeongsangbuk-do, South Korea (경상북도 경주시 월성동 분황로 94-11)

ข้อมูลเพิ่มเติม

สายด่วนการท่องเที่ยว 1330: + 82-2-1330 (เกาหลี, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, จีน, รัสเซีย, เวียดนาม, ไทย, มาเลย์)

ติดต่อสอบถาม

Hwangnyongsa Temple Site +82-54-779-6104 หรือ +82 54-779-6114

Bunhwangsa Temple +82 54-742-9922

website: bunhwangsa.org

เวลาทำการ

เปิดบริการทุกวัน 24 ชั่วโมง

Bunhwangsa Temple (분황사) 08:00 – 18:00 น.

ค่าเข้าชม

Hwangnyongsa Temple Site ฟรี

Bunhwangsa Temple

ผู้ใหญ่ 1,300 วอน, วัยรุ่น 1,000 วอน และเด็ก 800 วอน
กลุ่ม – ผู้ใหญ่ 1,300 วอน, วัยรุ่น 900 วอน และเด็ก 700 วอน

* กลุ่ม: 20 คนขึ้นไป
* ผู้ใหญ่ (อายุ 19-64), วัยรุ่น (อายุ 13-18), เด็ก (อายุ 8-12 ปี) และเข้าชมฟรี: ผู้สูงอายุ (อายุ 65 ปีขึ้นไป)

การเดินทาง

รายละเอียดการเดินทางโดยรถบัส Seoul to Gyeongju

รายละเอียดการเดินทางโดยรถไฟ Seoul to Gyeongju


From Intercity • Express Bus Terminal

เดินไปยังป้ายจอดรถประจำทาง ตรงข้ามกับสถานีขนส่ง และขึ้นรถบัส Bus No. 10, 11, 15, 16, 16-1, 17, 18, 100, 150 หรือ 277-1

และลงที่ป้ายจอดรถประจำทาง วัดพุนฮวังซา (Bunhwangsa Temple, 분황사) หรือแยกคยองโกซากอรี (Gyeonggosageori, 경고사거리)


From KTX Singyeongju Station

ขึ้นรถบัส Bus No. 70 หรือ 700 และลงที่ป้ายจอดรถประจำทาง วัดพุนฮวังซา (Bunhwangsa Temple, 분황사) หรือแยกคยองโกซากอรี (Gyeonggosageori, 경고사거리)

by Google Map

Hwangnyongsa Temple Site (황룡사지)

Bunhwangsa Temple (분황사)