ชอนจูกโยชอลดูซานซุนกโยซองจีซองดัง (Jeoldusan Martyrs Shrine, 천주교 절두산 순교 성지 성당) เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญ ทางประวัติศาสตร์ในด้าน การเมืองการปกครอง และทางการศาสนา ซึ่งอยู่ในบริเวณของ สวนสาธารณะมังวอนฮันกัง (Mangwon Hangang Park) ในกรุงโซล (Seoul) ซึ่งเป็นเมืองในพื้นที่ ของจังหวัดคยองกี (คยองกีโด, Gyeonggi-do) ในประเทศเกาหลีใต้
ในรัชสมัยการปกครองเกาหลี ของ แทวอนกุนฮึงซอน (Heungseon Daewongun, 흥선 대원군; ค.ศ. 1820 – ค.ศ. 1899) หรือรู้จักกันในชื่อของ แทวอนกุน (Daewongun, 대원군) ผู้เป็นพระราชบิดาและเป็นผู้สำเร็จราชการแทนของกษัตริย์โคจง (Gojong of Korea, 고종; ค.ศ. 1852 – ค.ศ. 1919) หรือจักรพรรดิควางมูเจ (Emperor Gwangmu, 광무제) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์องค์สุดท้าย ของราชวงศ์โชซอน และทรงเป็นจักรพรรดิองค์แรกแห่งเกาหลี
แทวอนกุน (Daewongun) เป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อการเมือง ในสมัยราชวงศ์โชซอนตอนปลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ โดยยึดถือหลักของลัทธิโดดเดี่ยว ยกเว้นการค้าระหว่างประเทศจีนและญี่ปุ่น ที่เกาะสึชิมะ (Tsushima Island) ประกอบกับปัญหาการเผยแพร่คริสต์ศาสนาในเกาหลี ซึ่งส่งผลต่อลัทธิขงจื้อ ที่ราชสำนักยึดถือเป็นหลักสำคัญ ทำให้ราชสำนักโชซอน มีทัศนคติที่ไม่สู้ดีนักกับชาวตะวันตก และกลายเป็นปัจจัยหลัก ซึ่งนำไปสู่การประหัตประหาร ผู้เผยแพร่ศาสนา และคริสต์ศาสนิกชนชาวเกาหลี จำนวนมากในเวลาต่อมา
ในปี ค.ศ. 1866 หลังจากที่ราชวงศ์ชิงได้พ่ายแพ้ ในสงครามฝิ่นครั้งที่สอง ชาติตะวันตกเริ่มให้ความสนใจแก่อาณาจักรโชซอน โดยเริ่มจากประเทศรัสเซียได้ส่งเรือรบเข้ามา เพื่อหวังเปิดการเจรจาทางการค้า แทวอนกุน (Daewongun) จึงดำเนินนโยบายตอบโต้ ด้วยการกวาดล้างคริสต์ศาสนาออกไปจากเกาหลี
การปราบปรามในช่วงหลายเดือนครั้งนี้ นำไปสู่การสังหารผู้สอนศาสนาคาทอลิกชาวฝรั่งเศส จำนวนเก้าคนจากสิบสองคน และชาวคาทอลิกกว่า 8,000 คนในที่สุด โดยบาทหลวงเฟลิกซ์ – แคลร์ริเดล (Priest Félix-Clair Ridel) ซึ่งสามารถหนึไปกับเรือประมง และเดินทางไปยังเมืองปักกิ่ง ของประเทศจีน ในต้นเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1866 ซึ่งเป็นเวลาช่วงเดียวกับที่ พลเรือเอกชาวฝรั่งเศส ปิแอร์กุสตาฟโรส (Pierre-Gustave Roze, 피에르귀스타브 로즈; ค.ศ. 1812 – ค.ศ. 1882) ได้เดินทางมายังประเทศจีนเช่นกัน เมื่อได้ยินเรื่องการสังหารหมู่ และการดูหมิ่นศักดิ์ศรีของฝรั่งเศส
พลเรือเอกปิแอร์กุสตาฟโรส (Pierre-Gustave Roze) ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะเริ่มต้นตอบโต้ เพื่อเป็นการลงโทษเกาหลี ภายใต้การดำเนินโดยจักรวรรดิฝรั่งเศสที่สอง ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์ การรณรงค์ต่อต้านฝรั่งเศสในเกาหลี (French campaign against Korea) ซึ่งในภาษาเกาหลี เรียกเหตุการณ์นี้ว่า พยองอินยังโย (Byeong-in yangyo, 병인양요) ซึ่งหมายถึง “การรุกรานของชาติตะวันตกในปีพยองอิน” โดยกองทัพเรือฝรั่งเศสบุกและยึดเกาะคังฮวา (Ganghwa) การสู้รบยังคงดำเนินต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1986
สุดท้ายจบลงด้วยความพ่ายแพ้ ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งไม่สามารถยกทัพ ผ่านกระแสน้ำแปรปรวน และแม่น้ำฮันตื้นเขินได้ ถึงแม้มีความพยายามหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ถูกกองทัพโชซอนต่อต้านกลับอย่างรุนแรง จึงถอยทัพกลับไปในที่สุด และเกาหลี ยังคงยืนยันนโยบายต่างประเทศ โดยยึดถือหลักของลัทธิโดดเดี่ยวเช่นเดิม
ชัมดูบง
Jamdubong (잠두봉) เป็นหน้าผาหินแหลม ที่สามารถมองเห็นแม่น้ำฮัน (Han River) ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการสังหารหมู่ชาวคาทอลิก ในปี ค.ศ. 1866 ทำให้ถูกเรียกชื่อว่า ชอลดูซาน (Jeoldusan, 절두산) ซึ่งเป็นคำภาษาเกาหลี ที่ความหมายถึง “ภูเขาจุดตัดหัว” ในปี ค.ศ. 1966 โบสถ์คริสตจักรคาทอลิกแห่งเกาหลี ได้ถูกก่อตั้งขึ้นบนภูเขาแห่งนี้ ซึ่งต่อมาในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1967 ได้เปิดอนุสรณ์สถานผู้พลีชีพชอลดูซาน (Jeoldusan Martyrs Shrine, 천주교 절두산 순교 성지 성당) ในวาระครบรอบ 100 ปี และเพื่อระลึกถึงความทุกข์ทรมานของผู้พลีชีพ
โดยในปี ค.ศ. 1984 สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์นปอลที่สอง และในปี ค.ศ. 1985 แม่ชีเทเรซา ได้เคยมาเยือนยังที่แห่งนี้ และในปี ค.ศ. 2000 ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นพิพิธภัณฑ์ผู้พลีชีพชอลดูซาน (Jeoldusan Martyrs Museum, 절두산 순교 박물관) อาคารสามชั้นบนหน้าผาสูงตระหง่าน ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรม ที่แสดงถึงวัฒนธรรมดั้งเดิม ตั้งอยู่ติดกับ สุสานมิชชันนารีต่างประเทศยังฮวาจิน (Yanghwajin Foreign Missionary Cemetery, 양화진외국인선교사묘원)
ในปัจจุบันพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ประกอบไปด้วยหอจดหมายเหตุ ที่เกี่ยวข้องกับคริสตจักรคาทอลิก ในประเทศเกาหลี, ห้องโถงจัดแสดง, ห้องโถงจาริกแสวงบุญ, ห้องโถงศึกษาพลีชีพ และห้องโถงนิทรรศการกลางแจ้ง อนุสรณ์สถานแห่งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีความหมายต่อวิญญาณ ของผู้พลีชีพชาวเกาหลี คาทอลิก ซึ่งพิสูจน์ถึงความเชื่อของพวกเขา ด้วยชีวิตและยังคงเสมือนมีชีวิตที่นิรันดร์ จวบจนถึงปัจจุบัน และจะยังคงอยู่ต่อไปในอนาคต
สุสานมิชชันนารีต่างประเทศยางฮวาจิน
Yanghwajin Foreign Missionary Cemetery (양화진외국인선교사묘원) หรือที่เรียกว่า สุสานนานาชาติฮับจองดง (Hapjeong-dong International Cemetery) สุสานถูกสร้างขึ้นในสไตล์ตะวันตก ที่มีบรรยากาศที่เงียบสงบ และสามารถมองเห็นทัศนียภาพกว้างไกล และสวยงามของแม่น้ำฮัน เป็นสถานที่พำนักแห่งสุดท้าย ของผู้สอนศาสนาชาวตะวันตก จาก 17 ประเทศ จำนวน 145 คนและครอบครัว รวมสุสาน 575 หลุมฝังศพ เพื่อแสดงถึงความกตัญญูและระลึกถึง ผู้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ต่อประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของเกาหลี ที่อุทิศชีวิตเพื่อชาวเกาหลี อ่านเพิ่มเติม
สวนสาธารณะมังวอนฮันกัง
นอกจากนี้คุณสามารถเดินเท้าเพียงระยะสั้นๆ เพื่อเยี่ยมชม สวนสาธารณะมังวอนฮันกัง (Mangwon Hangang Park) รวมไปถึงสถานที่สำคัญ ทางประวัติศาสตร์อีกหลายแห่ง ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรม และสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญ ของแม่น้ำฮัน (Han River) อ่านเพิ่มเติม
ที่อยู่ 6 Tojeong-ro, Hapjeong-dong, Mapo-gu, Seoul, South Korea (서울특별시 마포구 합정동 토정로 6)
ข้อมูลเพิ่มเติม
สายด่วนการท่องเที่ยว 1330: + 82-2-1330 (เกาหลี, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, จีน, รัสเซีย, เวียดนาม, ไทย, มาเลย์)
ติดต่อสอบถาม +82 2-3142-4434
website: jeoldusan.or.kr (เกาหลี )
เวลาทำการ
Jeoldusan Martyrs Museum: 09:30 – 17:00 น.
*ปิดทำการทุกวันจันทร์
ค่าเข้าชม ฟรี
การเดินทาง
Hapjeong Station (합정역, ฮับจองหยอก, Seoul Subway Line 2 หรือ Line 6) และออกทางออกที่ 7 จากนั้นเดินตรงไปที่ทางแยก และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนยังฮวาจินกิล (Yanghwajin-gil, 양화진길) เดินตรงไปตามถนนระยะทางประมาณ 364 เมตร จนสุดถนน
จากนั้นเลี้ยวซ้ายและเดินตรงไป 42 เมตร จากนั้นเลี้ยวขวาและเดินไปตามถนนโทจองโร (Tojeong-ro, 토정로) สถานที่อยู่ทางขวามือของคุณ
by Google Map