วัดม่วง (Wat Muang) เป็นที่ประดิษฐานของพระใหญ่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียง ของจังหวัดอ่างทอง (Ang Thong) ถือเป็นรูปปั้นที่สูงที่สุด ในประเทศไทย และยังเป็นรูปปั้นที่สูง เป็นอันดับสอง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสูงเป็นอันดับเก้าของโลกอีกด้วย

สันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้ ถูกสร้างในปี ปี พ.ศ. 2230 สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในแขวงเมืองวิเศษชาญ ซึ่งเคยเป็นเมืองหน้าด่าน ที่มีความเจริญรุ่งเรือง ต่อมาในปี พ.ศ. 2310 กรุงศรีอยุธยาได้เสียกรุงให้แก่พม่า ภายหลังการสู้รบในสงคราม ทำให้คงเหลือเพียง ซากปรักหักพังของวัด

ในปีพ.ศ. 2525 ท่านพระครูวิบูลอาจารคุณ (หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ) ได้มาปักกลดธุงดงค์เพื่อปฏิบัติธรรม ในบริเวณของวัดร้างแห่งนี้ และปรากฏนิมิตเห็น องค์หลวงปู่ขาว และหลวงปู่แดง บอกให้บูรณะวัดขึ้นมาใหม่ พร้อมกับการปั้นองค์พระครอบศิลาขาว และศิลาแดงที่มีอยู่ และมีชื่อเรียกว่า หลวงปู่ขาว และหลวงปู่แดง

การบูรณะปฏิสังขรณ์วัด เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2526 โดยในปี พ.ศ. 2527 กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศยกฐานะให้วัดร้างแห่งนี้ เป็นวัดที่มีพระสงฆ์ชื่อว่าวัดม่วง พร้อมประกาศแต่งตั้ง ท่านพระครูวิบูลอาจารคุณ เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ต่อมาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานวิสุงคามสีมาให้แก่วัด ในปี พ.ศ. 2529

ในปี พ.ศ. 2534 ท่านพระครูวิบูลอาจารคุณ ได้สมทบทุนจากพุทธศาสนิกทั่วประเทศ เพื่อสร้างพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในในประเทศไทย เพื่อน้อมถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อเป็นอนุสรณ์ในวาระ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี

องค์พระพุทธปางมารวิชัย ถูกสร้างด้วยคอนกรีต และทาทับด้วยสีทอง มีความสูง 93 เมตร และหน้าตักกว้าง 62 เมตร การก่อสร้างเริ่มในปี พ.ศ. 2535 และแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2550 รวมระยะเวลา ในการก่อสร้างทั้งสิ้น 16 ปี โดยมีมูลค่าในการก่อสร้าง 106,000,000 บาท

สำหรับพระนามขององค์พระ คือ พระพุทธมหานวมินทรา ศากยมุณีศรีวิเศษชัยชาญ ซึ่งมีความหมายว่า “พระพุทธเจ้าแห่งวิเศษชัยชาญ” มาจากการผสมจากหลายคำ ได้แก่ พระพุทธ หมายถึงพระพุทธเจ้า, มหานวมินทรา มาจากพระปรมาภิไธย ของในหลวงรัชกาลที่ 9, ศากยมุนี และศรีวิเศษชัยชาญ

บริเวณฐานขององค์พระพุทธรูป เป็นพระอุโบสถล้อมรอบด้วยกลีบดอกบัว ที่มีวิหารแก้วเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงวัตถุมงคล, โบราณวัตถุ และรูปปั้นของเกจิอาจารย์ ชื่อดังทั่วประเทศ โดยเปิดให้เข้าชม เฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ ในเวลา 09:00 ถึงเวลา 17:00 น.

ปัจจุบันวัดม่วงแห่งนี้ ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางกว่า 72 ไร่ ที่ประกอบไปด้วย สถานที่ศึกษาพระธรรม และปฏิบัติธรรม ทั้งสำหรับพระภิกษุสงฆ์ และประชาชนทั่วไป และศาสนสถาน เช่น ศาลาการเปรียญ, หอสวดมนต์ และกุฎิสงฆ์ เป็ต้น

บริเวณโดยรอบของวัด มีแหล่งท่องเที่ยว เชิงพระพุทธศาสนา ที่จัดแสดงผลงานประติมากรรม โดยแบ่งเป็นโซนๆ ได้แก่ แดนเทพเจ้าไทย, แดนนรก, แดนสวรรค์ และแดนเทพเจ้าจีน นอกจากนี้ยังมีรูปปั้น บอกเล่าประวัติศาสตร์ การสู้รบไทยและพม่า ที่วิเศษชัยชาญ รวมถึงโรงเลี้ยงปลา และร้านขายของที่ระลึก

Wat Muang Ang Thong

Wat Muang Ang Thong

Wat Muang Ang Thong

Wat Muang Ang Thong

Wat Muang Ang Thong

ที่อยู่ 19 ตำบลหัวตะพาน อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง 14110 (19 Hua Taphan Subdistrict, Wiset Chai Chan District, Ang Thong 14110)

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โทร. 0-2356-0656 , 0-2356-0718
  • สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว โทร. 1155
  • กรมการท่องเที่ยว โทร. 02-401-1111
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทร. 1672

ติดต่อสอบถาม +66-3563-1556

website: watmuang.com

เวลาทำการ เปิดบริการทุกวัน เวลา 05:00-19:00 น.

ค่าเข้าชม ฟรี

การเดินทาง

รถยนต์ส่วนบุคคลจากกรุงเทพ ไปตามถนนสายเอเชีย แล้วเข้าตัวเมืองอ่างทอง ผ่านตลาดแล้วเลี้ยวขวา ผ่านหน้าเรือนจำ เจอทางแยกเลี้ยวซ้าย (ทางไปสุพรรณบุรี) ไปตามเส้นทางสาย โพธิ์พระยาท่าเรือ วัดจะอยู่ทางซ้ายมือของคุณ ***วัดอยู่ห่างจากตัวเมือง จังหวัดอ่างทอง ไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 8 กิโลเมตร

by Google Map

วัดม่วง (Wat Muang Ang Thong)