ตลาดเก้าห้อง (Kao Hong Market) เป็นตลาดห้องแถวไม้เก่าแก่ และชุมชนอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ที่ดำรงไว้ซึ่งวิถึชีวิตของผู้คน และประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิม คำว่าตลาดเก้าห้อง (Talad Kao Hong) มาจากชื่อของ ”บ้านเก้าห้อง (Baan Kao Hong)” ซึ่งเป็นบ้านของขุนกำแหงฤทธิ์

ลักษณะเป็นบ้านเรือนไทย ฝาประกนใต้ถุนสูง ภายในบ้านแบ่งเป็นเก้าห้อง ตลาดถือกำเนิด ในช่วงต้นรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมหาราช โดยชาวจีนที่มีนามว่านายฮง หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันโดยทั่วไป ในนามของนายบุญรอด เหลียงพานิช

ผู้ซึ่งแต่งงานกับนางแพ ซึ่งเป็นหลานสาวของ ขุนกำแหงฤทธิ์แห่งบ้านเก้าห้อง เขาทำการค้าขายจนมีฐานะร่ำรวย ด้วยการต่อแพค้าขาย อยู่หน้าบ้านเก้าห้อง เพื่อทำการขายสินค้าแทบทุกประเภท ได้แก่ เครื่องบวช, เครื่องมืออุปกรณ์ทำนา, สินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงรับเหมาก่อสร้าง

ตลาดเก้าห้อง ประกอบด้วยตลาดสามแห่ง เริ่มจากตลาดล่างซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2449 โดยนายบุญรอด เหลียงพานิช ที่ได้ย้ายไปทำการค้าบนบก และสร้างตลาดบนฝั่งแม่น้ำท่าจีน ตรงข้ามกับบ้านเก้าห้อง ต่อมาตลาดอีกสองแห่ง ถูกสร้างในปี พ.ศ. 2479 คือ

ตลาดบนสร้างโดยพระชาญสุวรรณเขต และตลาดกลางซึ่งแต่เดิมเคยเป็น โรงสีของนายทองดี ในอดีตตลาดแห่งนี้ ประกอบไปด้วย เรือนแถวไม้สูงสองชั้น ที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบจีน และกลายเป็นศูนย์กลางการค้าขาย ของชาวจีนในทุ่งฟากตะวันตก ของบางปลาม้า

และยังเป็นศูนย์กลาง การคมนาคมทางน้ำที่สำคัญ ที่มีเรือโดยสารซึ่งวิ่งระหว่าง สุพรรณบุรี ถึงงิ้วราย รวมถึงเรือโดยสาร ที่มีเส้นทางสัญจร เพื่อไปยังตัวเมืองสุพรรณบุรี และกรุงเทพ ในปัจจุบันตลาดยังคง ค้าขายปกติในทุกวัน

และเป็นสถานที่ยอดนิยม สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์, ละคร, โฆษณา, มิวสิควิดีโอเพลง และรายการท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงเป็น สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ด้วยเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรม และเสน่ห์ของบรรยากาศดั้งเดิม

ที่แห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่ง จุดหมายปลายทาง นอกเหนือไปจาก ตลาดสามชุก (Samchuk Market) สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยังจังหวัดสุพรรณบุรี ในประเทศไทย โดยเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์ และวันนักขัตฤกษ์ ตลาดจะคึกคักไปด้วยผู้คน และเปิดค้าขายกันทุกห้อง

ตลาดเป็นแหล่งผลิตขนมเปี๊ยะ และขนมจันอับ ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรี รวมถึงอาหาร และสินค้าอื่นๆ ได้แก่ กะหรี่พั้ฟ, ข้าวเกรียบปากหม้อ, ก๋วยจั๊บเก้าห้อง, ผัดไทย, ราดหน้า, หมูสะเต๊ะ, กาแฟโบราณ และเครื่องใช้แบบหัตถกรรมจักสาน

นอกจากนี้ยังมีขนมไทยโบราณหาทานยาก ให้คุณได้มีโอกาสได้ลิ้มลอง เช่น ขนมขันหมาก และขนมไข่ปลา เป็นต้น สำหรับสถานที่น่าสนใจ ของตลาดแต่ละแห่ง ได้แก่ ตลาดกลาง จะมีศาลเจ้าแม่ทับทิม, โรงสีเก่า, โรงถ่ายภาพยนตร์, บ้านสะสมเหล้าเก่า และโรงพิมพ์ไพโรจน์

และยังมีสถานที่ ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ในส่วนของตลาดบน ได้แก่ บ้านแถวไม้โบราณ, ฮู้ศักดิ์สิทธิ์, บ้านชักรอก, ศาลเจ้าพ่อทุ่งแค และในตลาดล่าง จะเป็นที่อยู่ของหอดูโจร, พิพิธภัณฑ์ตลาดเก้าห้อง และของเก่าบ้านมหาเจริญ เป็นต้น

หอดูโจร


หอแห่งนี้ถูกสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2477 เพื่อเป็นหอสังเกตการณ์ สำหรับการป้องกันการปล้นสะดมของพวกโจร หรือที่เรียกว่าเสือ ที่ออกปล้นฆ่าตามริมน้ำท่าจีน หอมีรูปแบบทางสถาปัตยกรรม คล้ายคลึงกับหอระฆังโทคิโนะคาเนะ (Toki no kane, 時の鐘) ในเมืองคาวาโงเอะ (Kawagoe) ของประเทศญี่ปุ่น

หอก่ออิฐถือปูนมีความกว้าง 3 x 3 เมตร และมีขนาดความสูงราวตึก 4 ชั้น โดยฝาผนังในแต่ละชั้น ถูกเจาะรูที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้ว สำหรับปืนส่องยิงตามรูทั้ง 4 ด้านของป้อม เพื่อต่อสู้กับการถูกปล้น เมื่อคุณขึ้นไปที่ชั้นบนสุดเป็นดาดฟ้า ที่มองเห็นทัศนียภาพโดยรอบ ที่สวยงามทั้งทางบกและทางน้ำ ของตลาดแห่งนี้

Kao Hong Market

Kao Hong Market

Kao Hong Market

Kao Hong Market

ที่อยู่ ตลาดเก้าห้อง, บางปลาม้า, จังหวัดสุพรรณบุรี 72150 (Kao Hong Market, Bang Plama, Suphanburi 72150)

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โทร. 0-2356-0656 , 0-2356-0718
  • สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว โทร. 1155
  • กรมการท่องเที่ยว โทร. 02-401-1111
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทร. 1672

ติดต่อสอบถาม +668-5322-5461

Facebook: facebook.com/taradkaohong

เวลาทำการ เปิดบริการทุกวัน เวลา 08:00–17:00 น.

ค่าเข้าชม ฟรี

การเดินทาง

รถส่วนบุคคล: การเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสาย 340 (บางบัวทอง-สุพรรณบุรี) ระยะทางประมาณ 100 กม. เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ อำเภอบางปลาม้า (มีปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ก่อนถึงทางเข้าอำเภอบางปลาม้า 100 เมตร) จากนั้นไปอีกประมาณ 4 กม.


รถโดยสารประจำทาง: ใช้รถโดยสารประจำทาง จากกรุงเทพถึงสุพรรณบุรี จากสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต) ไปลงที่สถานีขนส่งสุพรรบุรี จากนั้นที่ที่บริเวณสี่แยกนางพิม ใช้รถประจำทางสายสุพรรณบุรี-เก้าห้อง เพื่อมายังตลาด

by Google Map

ตลาดเก้าห้อง (Kao Hong Market)